เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [20.สัตตตินิบาต] 1.กุสชาดก (531)
[44] ทูลกระหม่อมแม่ ขอเสด็จแม่โปรดให้สร้างเป็นสวน
แล้วให้ปลูกต้นกรรณิการ์ไว้ในเขตนี้
เมื่อใด ต้นกรรณิการ์เหล่านั้นมีดอกบานสะพรั่ง
ในคราวหิมะตกแห่งฤดูเหมันต์
เมื่อนั้น เสด็จแม่พึงรำลึกถึงหม่อมฉันว่า
ลูกประภาวดีของแม่มีผิวพรรณอย่างนี้
(พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศข้อความนั้น จึงตรัสว่า)
[45] นางกษัตริย์ผู้มีผิวพรรณดังเทพอัปสร
ซึ่งเป็นพระมารดาของเจ้าหญิงประภาวดีนั้น
ทอดพระเนตรเห็นดาบและเขียง
ภายในบุรีของพระเจ้ามัททะ จึงเสด็จลุกขึ้น
(พระมารดาของพระนางประภาวดี ทรงรำพันว่า)
[46] ข้าแต่เสด็จพี่มัททะ พระองค์จักทรงประหาร
พระธิดาเอวบางร่างน้อยซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
ด้วยพระแสงดาบนี้แล้วประทานให้แก่กษัตริย์ทั้งหลายแน่ละหรือ
[47] ลูกหญิง ลูกไม่ทำตามคำของแม่ผู้หวังประโยชน์
ลูกนั้นจะมีเลือดโซมกายไปสู่สำนักพญายมในวันนี้
[48] คนใดแลไม่ทำตามคำของผู้หวังเกื้อกูล
และบ่งชี้ประโยชน์ทั้งหลาย
คนนั้นย่อมต้องลำบากอย่างนี้
และต้องประสบความชั่วร้ายยิ่งกว่า
[49] ก็ถ้าวันนี้ลูกหญิงมีพระกุมารทรงโฉมงดงาม
ประดุจฉาบไว้ด้วยทอง เป็นกษัตริย์ทรงกำเนิดกับพระเจ้ากุสะ
สวมใส่สร้อยสังวาลทองคำประดับแก้วมณี
ที่หมู่พระญาติทรงบูชาแล้ว
ก็จะไม่ต้องไปสู่นิเวศน์พญายม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :63 }